14.3.62

เครื่องจักร


เครื่องจักร NC DNC CNC

 เครื่องจักร NC DNC CNC


  • เครื่องจักร NC 






          NC  ย่อมาจาก Numerical Control หมายถึงการควบคุมการทำงานของเครื่อง NC ด้วยคำสั่งเชิงตัวเลขและตัวอักษรที่ถูกสร้างขึ้นมาในรูปของคำสั่งซึ่งก็คือ โปรแกรม NC. ระบบ NC ซึ่งนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1950 ซึ่งส่วนมากจะถูกนำมาใช้ในการควบคุมการทำงานของเครื่องมือกลเป็นส่วนใหญ่.ในปัจจุบันระบบ NC จะถูกแทนที่ด้วยระบบ CNC เกือบทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากว่าในระบบ NC ไม่มีคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยในการทำงาน  อีกทั้งเครื่องจักรที่ถูกควบคุมด้วย NC  ก็ไม่มีการผลิตออกมาใช้งานแล้ว.
  • เครื่องจักร DNC 




      คือ คือระบบที่มีคอมพิวเตอร์กลางในการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนและกระจายข้อมูลซึ่งในที่นี้คือ โปรแกรม NC Data กับหน่วยควบคุม NC ของเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละตัวได้เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริการข้อมูลทั้งรับข้อมูล และส่งข้อมูลจำเพราะให้กับเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละเครื่องในเครือข่ายตามที่แต่ละเครื่องต้องการพร้อมๆ กันได้ในเวลาเดียวกัน






  • เครื่องจักร CNC 





          คือ เครื่องจักรกลแบบอัตโนมัติที่มีการทำงานด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยตัวเครื่องจะทำงานตามแบบที่เราได้จัดใส่โปรแกรมการทำงานเข้าไป และสามารถใช้ได้หลายภาษา ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เครื่องจักรชนิดนี้กับงานโลหะที่ต้องการความละเอียดและแม่นยำ หรือมีความซับซ้อนสูง โดยมีจุดประสงค์ในสร้างเครื่อง CNC ขึ้นมาเพื่อให้สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติในแบบรวดเร็ว แม่นยำ และสามารถทำงานในแบบที่ซับซ้อนได้ดี ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการควบคุมมุมต่างๆ ได้อย่างละเอียด ทำให้ชิ้นงานออกมาดี



7.3.62

ระบบจัดเก็บอัตโนมัติ as/rs

ระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ 


AS/RS



                                       


                                             ระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ

                                 ( Automated Storage/Retrieval System หรือเรียก AS/RS )

ระบบเทคโนโลยีกับการจัดการคลังสินค้า
               ระบบเทคโนโลยีเพื่อการจัดการคลังสินค้า นอกจากจะใช้ระบบซอฟแวร์ในการบริหารคลังสินค้าแล้ว ปัจจุบันทุกคลังสินค้าได้นำระบบBarcode มาใช้เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ทางธุรกิจ ซึ่งถือว่าเป็นระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงมากในเรื่องการลดความผิดพลาด สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล ตรวจเช็คสินค้าโดยไม่ต้องใช้คนนับ ลดความผิดพลาดในการทำงานได้มาก นอกจากนี้ยังมีคลังสินค้าสมัยใหม่เป็นจำนวนมากที่เริ่มนำเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในคลังสินค้าให้สะดวก และรวดเร็ว ลดความผิดพลาดจากการทำงาน สามารถสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ภายในคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการดำเนินงาน ลดความซ้ำซ้อนจากการทำงาน ระบบเทคโนโลยีที่ใช้กับคลังสินค้าสามารถแบ่งได้เป็น 4 ส่วน ดังนี้
                          1. เทคโนโลยีที่เป็นโปรแกรมคุมเครื่อง
                          2. เทคโนโลยีที่เป็นโปรแกรมจัดการวัสดุและสินค้าคงคลัง
                          3. ระบบฐานข้อมูล (Database System)
                          4. เทคโนโลยีในการบ่งบอกและติดตามสินค้า

       โดยมีรายละเอียดและสาระสำคัญของระบบเทคโนโลยีที่ใช้ในคลังสินค้า ดังนี้
                          1. เทคโนโลยีที่เป็นโปรแกรมควบคุมเครื่อง ประกอบด้วย ส่วนสำคัญ 4 ส่วน ดังนี้
                           1.1 Computer Aided Design (CAD) หมายถึง การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลดความสูญเสียและเสียหายในส่วนงานขององค์การ ใช้มากในกระบวนการผลิต
                           1.2 Computer Aided Manufacturing (CAM) หมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์เข้าควบคุมเครื่องจักรและเครื่อง มือต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในกระ บวนการผลิตแต่ละจุด ช่วยในการวางผังในกระบวนการ ระบบการใช้ในปัจจุบันจะใช้เชื่อมโยงระหว่างกระบวนการผลิตกับการจัดซื้อ การจัดเก็บรักษา และสินค้าคงคลังต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาวะที่สมดุล และเหมาะสม
                        1.3 ระบบการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ AS/RS (Automatic Storage & Retrieval System) เป็นวิธีการควบคุมทางคอมพิวเตอร์สำหรับการเก็บ และการนำเอาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ออกมาจากสถานที่จัดเก็บ

                          1.4 ระบบควบคุมพาหนะนำทางอัตโนมัติ AGVs (Automated guided vehicles) เป็นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ในการควบคุมการทำงานของพาหนะทำงานอัตโนมัติ ที่เชื่อมต่อกับระบบขนถ่ายอื่น ๆ เช่น สายพาน การนำทางพาหนะสามารถใช้ระบบนำทางด้วยเลเซอร์ การฝังสายไฟใต้พื้น หรือฝังแม่เหล็กลงในพื้นคลังสินค้าและควบคุมการทำงานของพาหนะที่ใช้ในการขนถ่ายสินค้าด้วยคอมพิวเตอร์ พาหนะเหล่านี้เป็นรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าไม่ใช้คนขับ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทำงานตามคำสั่งด้วยระบบคลื่นวิทยุ หรือการฝังสายใต้พื้น อุปกรณ์ควบคุมจะจับสัญญาณบนพาหนะว่ามีการเคลื่อนที่ตามกำหนดหรือไม่ สัญญาณจะถูกส่งไปยังมอเตอร์พวงมาลัยเพื่อบังคับทิศทางให้สามารถไปหยิบสินค้าจากสถานที่จัดเก็บไปส่งยังสถานที่ที่กำหนดระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ 

              ระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ
      ระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ (Automated Storage/Retrieval System  เรียกโดยย่อว่า AS/RS)  คือ การทำงานของระบบการจัดเก็บในคลังสินค้าหรือโกดัง ที่มีการควบคุมด้วยระบบการจัดเก็บวัสดุ การรับวัสดุ รวมทั้งการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์ขนถ่าย ที่ทำงานร่วมกับโรงงานและคลังสินค้า ซึ่งสามารถออกแบบการใช้งานให้เหมาะสมกับการทำงานลักษณะต่างๆได้ โดยทั่วไปแล้วปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถในการจัดเก็บและเรียกใช้ของอุปกรณ์ แบบ AS/RS จะพิจารณาจากลักษณะโครงสร้างของหิ้งที่ใช้จัดเก็บ ความเร็วในการเคลื่อนของอุปกรณ์ AS/RSทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ

 ระบบ AS/RS แบ่งออกเป็นแบบต่าง ๆ ดังนี้
 - Unit Load AS/RS
 - Miniload AS/RS
 - Man-on-Board AS/RS หรือ Manaboard AS/RS
 - Automated Item Retrieval System
 - Deep-Lane AS/RS

 องค์ประกอบพื้นฐานของระบบ AS/RS
  1. โครงสร้างที่เก็บวัสดุ (Storage Structure)
  2.  เครื่อง S/R (Storage/Retrieval Machine)
  3.  หน่วยของการเก็บวัสดุ (Storage Module)
 4.  สถานีหยิบและฝากวัสดุ (Pickup and Deposit Station)

           อุปกรณ์พิเศษของระบบ AS/RS
 1. รถเคลื่อนย้ายช่องทางขนส่งวัสดุ (Aisle Transfer Car)
 2. อุปกรณ์ตรวจสอบถังบรรจุวัสดุว่างเปล่า/เต็ม
 3. สถานีวัดขนาดโหลด (Sizing Station)
  4. สถานีบ่งชี้โหลด (Load Identification Station)

  การประยุกต์ใช้ระบบ AS/RS
 การแยกใช้งานของระบบ AS/RS ออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
  1. จัดเก็บและเรียกคืน Unit Load
  2. หยิบวัสดุตามสั่ง (Order picking)
  3. ระบบจัดเก็บวัสดุระหว่างกระบวนการ

 การจัดเก็บวัสดุระหว่างกระบวนการ
 1.ใช้เก็บชุดของชิ้นงานประกอบ
 2. สนับสนุนการผลิตแบบ JIT
 3. ใช้เป็นบัฟเฟอร์สำหรับจัดเก็บวัสดุ
 4. สามารถใช้งานร่วมกันกับระบบบ่งชี้ชิ้นงานแบบอัตโนมัติ
 5.ทำให้เกิดการควบคุมและการติดตามวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ
 6. สนับสนุนการทำให้เกิดการทำงานแบบอัตโนมัติทั้งโรงงาน

   ภาพประกอบ AS/RS   


ภาพที่ 1
 ภาพประกอบของระบบ AS/RS

ภาพที่ 2
                                                         ภาพประกอบของระบบ AS/RS
ภาพที่ 3

ภาพประกอบของระบบ AS/RS 
ภาพที่ 4

 วิดีโอระบบ AS/RS



ข้อดีของระบบ AS/RS
                 Automated Storage and Retrieval System เป็นระบบที่สามารถรับและจัดเก็บสินค้าเข้าคลังได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ลดระยะเวลาการทำงาน และลดจำนวนพนักงานงานในการจะเก็บสินค้า ระบบ AS/RS จะคำนวณการจัดเก็บสินค้าที่มีอัตราการเคลื่อนไหวสูงไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม สะดวกต่อการหยิบ อีกทั้งยังช่วยป้องกันความเสียหายในการขนย้ายสินค้า และช่วยจัดเรียงสินค้าให้เป็นระบบและระเบียบมากขึ้น ระบบสามารถนำไปใช้ร่วมกับ โปรแกรมระบบจัดการในคลังสินค้า (Warehouse Management System Software,

ประโยชน์ที่จะได้รับ
                    เพิ่มความรวดเร็วในการคัดแยกสินค้าลดเวลาการทำงานและลดงานที่ซ้ำซ้อนคัดแยกถูกต้องแม่นยำ100%ประหยัดพื้นที่คัดแยกสินค้า
                    ลดพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าลดพื้นที่ในการขนถ่ายสินค้าเพิ่มปริมาณการจัดเก็บสินค้าเพิ่มประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายสินค้า,ทำงานรวดเร็ว แม่นยำบริหารทรัพยากรบุคคลประหยัดพลังงาน
                    ระบบ AS/RS เหมาะกับงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ  ที่มีการขนถ่ายสินค้าครั้งละมากๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วแม่นยำและประหยัดพลังงานคนในการขนย้าย




   สรุป 
          โรงงานอุตสหกรรมขนาดใหญ่ มีความจำเป็นที่ต้องนำระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและ มีคว่ทคล่องตัวสูงในการเรียกสินค้าเพื่อรวดเร็วในการจัดส่งให้ลูกค้าได้อย่างทันเวลา และสามารถลดต้นทุนทางด้านบุคลากรได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงในการติดตั้งครั้งแรก และการดูแลรักษา 

AGV

“สำหรับการทำงานของ AGV เทคโนโลยีนี้มีการออกแบบระบบการทำงานอัตโนมัติ โดยบริหารจัดการและขนย้ายสินค้า ซึ่งประเมินจากแนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม ลูกค้าสามารถติดตั้งและปรับใช้ AGV ได้หลากหลายรูปแบบให้เหมาะกับกิจกรรมในคลังสินค้าและรูปแบบการทำงานของตน ยกตัวอย่าง ถ้าลูกค้าต้องการเพิ่มปริมาณสินค้าที่ขนถ่ายในศูนย์ปฏิบัติการก็สามารถเพิ่มจำนวน AGV เพื่อรองรับสินค้าที่มากขึ้นได้ รวมทั้ง ระบบการทำงานของ AGV มีความยืดหยุ่นมากเนื่องจากสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเมื่อเทียบกับระบบสายพาน (conveyor) หากมี AGV ที่ต้องซ่อมบำรุงก็สามารถนำ AGV อีกตัวเข้ามาปฏิบัติงานแทนได้ ซึ่งช่วยรักษาความสามารถในการทำงานสูงสุดต่อวันให้ลูกค้า”



เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มมีการพัฒนาและมีความทันสมัยมากขึ้น ระบบอัตโนมัติและเครื่องมือต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ปฏิบัติการอย่างคลังสินค้า โดยถือได้ว่าประสิทธิภาพและประโยชน์จากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่พลิกบทบาทการออกแบบคลังสินค้าและการทำงานภายในคลังสินค้าอย่างแท้จริง

เพื่อเป็นการเรียนรู้ถึงความสามารถและวิธีการปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในคลังสินค้ามากขึ้น เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ Swisslog Logistics Automation ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านหุ่นยนต์และโซลูชั่นอินทราโลจิสติกส์ด้านการใช้ข้อมูล โดยทางบริษัทฯ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอัตโนมัติต่างๆ ในอุตสาหกรรม แนวความคิดต่อเทคโนโลยีอัตโนมัติในตลาดที่เปลี่ยนไป และแนวโน้มที่ทางบริษัทฯ เล็งเห็นในอนาคต
The Capabilities of Automation
คลังสินค้าเป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมการยกขนสินค้าที่มีความซับซ้อน ในแต่ละวันมีสินค้าหลากหลายชิ้นที่ถูกขนส่งเข้ามาในคลังสินค้าและศูนย์กลางโลจิสติกส์ โดยสินค้าที่เข้าและออกจากศูนย์ปฏิบัติการแต่ละชิ้นถูกติดตามและรายงานว่าอยู่ตำแหน่งไหนในคลังสินค้า มีสถานะอย่างไร และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปฏิบัติการไหนที่จะไร้ข้อบกพร่องโดยสิ้นเชิง จากความซับซ้อนของกิจกรรมที่เกิดในคลังสินค้าย่อมมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดในส่วนนี้ หลายบริษัทจึงตัดสินใจนำระบบจัดการสินค้าอัตโนมัติเข้ามาช่วยเหลือการปฏิบัติการ
Swisslog อธิบายว่า “Automated Guided Vehicle (AGV) เป็นโซลูชั่นอัตโนมัติในการบริหารจัดการสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ปฏิบัติการคอยควบคุม เมื่อเทียบกับการทำงานด้วยแรงงานคนปกติแล้ว ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้แม่นยำ สม่ำเสมอ ทำงานได้ยาวนานกว่า และไม่มีความผิดพลาดจากความเหนื่อยล้าหรือความสะเพร่าในการทำงาน”
“สำหรับการทำงานของ AGV เทคโนโลยีนี้มีการออกแบบระบบการทำงานอัตโนมัติ โดยบริหารจัดการและขนย้ายสินค้า ซึ่งประเมินจากแนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม ลูกค้าสามารถติดตั้งและปรับใช้ AGV ได้หลากหลายรูปแบบให้เหมาะกับกิจกรรมในคลังสินค้าและรูปแบบการทำงานของตน ยกตัวอย่าง ถ้าลูกค้าต้องการเพิ่มปริมาณสินค้าที่ขนถ่ายในศูนย์ปฏิบัติการก็สามารถเพิ่มจำนวน AGV เพื่อรองรับสินค้าที่มากขึ้นได้ รวมทั้ง ระบบการทำงานของ AGV มีความยืดหยุ่นมากเนื่องจากสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเมื่อเทียบกับระบบสายพาน (conveyor) หากมี AGV ที่ต้องซ่อมบำรุงก็สามารถนำ AGV อีกตัวเข้ามาปฏิบัติงานแทนได้ ซึ่งช่วยรักษาความสามารถในการทำงานสูงสุดต่อวันให้ลูกค้า”
นอกจากนี้ เทคโนโลยีประเภทนี้ยังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ Swisslog อธิบายว่า “ตอนนี้ซัพพลายเชนมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เราจึงออกแบบเทคโนโลยีประเภทต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยปัจจุบัน เราให้บริการรถ AGV ในตลาดหลากหลายประเภทและมีการออกแบบรถยกขนสินค้าเฉพาะสำหรับลูกค้าบางรายที่มีความต้องการเฉพาะ อย่างไรก็ตาม รถ AGV ทุกประเภทมีหน้าที่เหมือนกันคือ การขนย้ายสินค้า การยกขนสินค้าวางซ้อน และบางประเภทก็สามารถจัดเก็บสินค้าได้ด้วย”
“ถึงแม้รถ AGV มีหลากหลายประเภท แต่โดยหลักแล้ว เราสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลักๆ คือ AGV มาตรฐานทั่วไปอย่าง fork AGV และ conveyor AGV ประเภทที่สองคือ รถ AGV แบบเคลื่อนที่ได้ โดยรถ AGV ทั่วไปมีหน้าที่ในการขนส่ง สินค้าและใช้ในการจัดการระบบอินทราโลจิสติกส์ทั่วไป ซึ่งมีให้เลือกตามความต้องการของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน รถที่ขนส่งมีทั้งที่เป็นพาหนะอย่างรถฟอร์คลิฟต์และ conveyor deck และประเภทที่สองคือรถ AGV เคลื่อนที่ได้ ตัวอย่างเช่น ที่ Swisslog เรามีรถ CarryPick ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเคลื่อนที่ได้ ใช้สำหรับจัดเก็บและหยิบสินค้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บสินค้าที่ทันสมัยและมีระบบจัดเก็บสินค้าสำหรับโลจิสติกส์แบบ multi-channel รถยกขนสินค้าเหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Swisslog และ KUKA ซึ่งมีการนำทางโดยใช้ระบบ grid เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ปฏิบัติงานเพื่อยกขนสินค้าและลดระยะการเดินของพนักงาน โดยรถแต่ละคันสามารถเข้ามาทำงานและปฏิบัติหน้าที่แทนกันและกันได้ โดยที่ระบบยังคงสามารถทำงานต่อได้แม้จะมีการลดจำนวนรถลง นอกจากนี้ พนักงานยังสามารถเข้าไปหยิบสินค้าเองได้หากจำเป็น เราออกแบบระบบที่สามารถตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของสินค้าประเภทต่างๆ ได้โดย mobile racks แบบมาตรฐานสามารถปรับขนาดและลักษณะการทำงานได้ตามรูปร่างของสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมแฟชั่นที่ต้องมีการใช้ไม้แขวนเสื้อ ยิ่งกว่านั้น ระบบยังสามารถปรับเปลี่ยนได้หากมีการเปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเราสามารถติดตั้งระบบดังกล่าวในอาคารหรือตึกมีหลังคาต่ำได้ ลูกค้าสามารถเริ่มจากการใช้รถ AGV เพียงไม่กี่คันและเพิ่มจำนวนภายหลังตามความสามารถในการทำงานและปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้น”
Customized Technology
ทั้งนี้ เทคโนโลยีประเภทนี้สามารถปรับใช้งานกับสินค้าหลากหลายประเภทที่นำขึ้นวางบนแพเล็ต ตะกร้า bin หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดย AGV สามารถใช้งานร่วมกับการยกขนสินค้าเกือบทุกประเภท โดยสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ด้วยเทคโนโลยีระบบนำทางที่ทันสมัยและมีความสามารถในการยกขนสินค้าที่ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้ AGV จึงเหมาะกับระบบโลจิสติกส์ที่ทั้งซับซ้อนและระบบการทำงานที่มีความเรียบง่าย
Swisslog กล่าวเสริมว่า “AGV ของเราสามารถทำงานได้อิสระแบบ stand-alone หรือสามารถทำงานร่วมกับระบบ ERP ได้ สถานที่ปฏิบัติงานก็มีความปลอดภัยและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังลดโอกาสในการหยิบสินค้าผิดเนื่องจากมีระบบหยิบสินค้าตามสัญญาณไฟ (pick by light) และระบบ pick pointer โดยผู้ใช้งานสามารถปฏิบัติงานได้สะดวกและราบรื่นมากขึ้น นอกจาก AGV ทั่วไปแล้ว เรายังให้บริการเครื่องมือยกขนสินค้าที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า เรามีตัวเลือกทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย ดังนั้นต้องเริ่มจากการศึกษาตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายก่อน ลูกค้าบางรายอาจไม่จำเป็นต้องปรับแต่งรถก็ได้เพราะสามารถเลือกใช้งานจากประเภทรถต่างๆ ที่เราให้บริการอยู่แล้ว”
“บางกรณี เราก็มีลูกค้าที่ต้องการโซลูชั่นอัตโนมัติเช่นกัน หนึ่งในลูกค้าของเราคือ บริษัท AMAG Automobile ที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยเป็นบริษัทผู้นำเข้ารถประเภทต่างๆ ทั้ง VW, Škoda, Audi, SEAT และรถเพื่อการพาณิชย์ของ VW โดย AMAG Automobile มีการวางแผนเปลี่ยนการขนย้ายสินค้าทั้งหมดให้เป็นระบบอัตโนมัติในโซนและระดับชั้นที่กำหนด ซึ่งจากความต้องการดังกล่าว Swisslog ได้ออกแบบคอนเซปต์การทำงานของ AGV ทั้งหมด 20 คัน รวมทั้งซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงาน ระบบนำทางด้วยเลเซอร์และระบบการสื่อสารผ่าน Wi-Fi ในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้รถสามารถทำงานได้ตามที่วางแผนไว้และปฏิบัติการอย่างปลอดภัย ซึ่งประเมินจากจำนวนของรถยกขนสินค้าถือได้ว่าเป็นโครงการติดตั้งรถ AGV ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์และใหญ่ที่สุดของ Swisslog ในปัจจุบัน และทุกวันนี้ ระบบดังกล่าวก็ยังทำงานได้ตรงตามตารางที่กำหนดและสามารถติดตามสถานะของระบบได้อย่างไร้รอยต่อ ความผิดพลาดและความเสียหายของสินค้าลดลง และระยะทางการขนส่งสินค้าภายในคลังสินค้ายังได้รับการปรับให้เหมาะสมขึ้น เนื่องจาก AGV สามารถลดระยะเวลาในการขนถ่ายสินค้าให้เร็วขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์”
นอกจากการติดตั้งเทคโนโลยีที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องคำนึงถึงอีก Swisslog อธิบายเพิ่มเติมว่า “ลูกค้าควรเข้าใจรูปแบบการทำงานและกิจกรรมภายในอาคาร อาทิ จำนวนกะการทำงาน ความแม่นยำในการทำงาน และพื้นที่ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งลูกค้าควรคำนึงถึงความปลอดภัยอีกด้วย การจะปรับใช้ AGV อาคารดังกล่าวต้องมีพื้นที่แข็งแรงมั่นคง พื้นผิวมีความราบเรียบ และมีอัตราการรับน้ำหนักของพื้นอย่างเหมาะสม ยิ่ง AGV ต้องยกขนสินค้าสูงเท่าไรก็ยิ่งต้องมีการติดตั้งจำนวนตัวเซ็นเซอร์มากขึ้นเท่านั้น เพื่อความแม่นยำในการทำงาน รวมทั้งต้องมีการลดความเร็วลง เพื่อความปลอดภัยในการทำงานอีกด้วย”

เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มมีการพัฒนาและมีความทันสมัยมากขึ้น ระบบอัตโนมัติและเครื่องมือต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ปฏิบัติการอย่างคลังสินค้า โดยถือได้ว่าประสิทธิภาพและประโยชน์จากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่พลิกบทบาทการออกแบบคลังสินค้าและการทำงานภายในคลังสินค้าอย่างแท้จริง

เพื่อเป็นการเรียนรู้ถึงความสามารถและวิธีการปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในคลังสินค้ามากขึ้น เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ Swisslog Logistics Automation ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านหุ่นยนต์และโซลูชั่นอินทราโลจิสติกส์ด้านการใช้ข้อมูล โดยทางบริษัทฯ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอัตโนมัติต่างๆ ในอุตสาหกรรม แนวความคิดต่อเทคโนโลยีอัตโนมัติในตลาดที่เปลี่ยนไป และแนวโน้มที่ทางบริษัทฯ เล็งเห็นในอนาคต
The Capabilities of Automation
คลังสินค้าเป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมการยกขนสินค้าที่มีความซับซ้อน ในแต่ละวันมีสินค้าหลากหลายชิ้นที่ถูกขนส่งเข้ามาในคลังสินค้าและศูนย์กลางโลจิสติกส์ โดยสินค้าที่เข้าและออกจากศูนย์ปฏิบัติการแต่ละชิ้นถูกติดตามและรายงานว่าอยู่ตำแหน่งไหนในคลังสินค้า มีสถานะอย่างไร และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปฏิบัติการไหนที่จะไร้ข้อบกพร่องโดยสิ้นเชิง จากความซับซ้อนของกิจกรรมที่เกิดในคลังสินค้าย่อมมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดในส่วนนี้ หลายบริษัทจึงตัดสินใจนำระบบจัดการสินค้าอัตโนมัติเข้ามาช่วยเหลือการปฏิบัติการ
Swisslog อธิบายว่า “Automated Guided Vehicle (AGV) เป็นโซลูชั่นอัตโนมัติในการบริหารจัดการสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ปฏิบัติการคอยควบคุม เมื่อเทียบกับการทำงานด้วยแรงงานคนปกติแล้ว ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้แม่นยำ สม่ำเสมอ ทำงานได้ยาวนานกว่า และไม่มีความผิดพลาดจากความเหนื่อยล้าหรือความสะเพร่าในการทำงาน”
“สำหรับการทำงานของ AGV เทคโนโลยีนี้มีการออกแบบระบบการทำงานอัตโนมัติ โดยบริหารจัดการและขนย้ายสินค้า ซึ่งประเมินจากแนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม ลูกค้าสามารถติดตั้งและปรับใช้ AGV ได้หลากหลายรูปแบบให้เหมาะกับกิจกรรมในคลังสินค้าและรูปแบบการทำงานของตน ยกตัวอย่าง ถ้าลูกค้าต้องการเพิ่มปริมาณสินค้าที่ขนถ่ายในศูนย์ปฏิบัติการก็สามารถเพิ่มจำนวน AGV เพื่อรองรับสินค้าที่มากขึ้นได้ รวมทั้ง ระบบการทำงานของ AGV มีความยืดหยุ่นมากเนื่องจากสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเมื่อเทียบกับระบบสายพาน (conveyor) หากมี AGV ที่ต้องซ่อมบำรุงก็สามารถนำ AGV อีกตัวเข้ามาปฏิบัติงานแทนได้ ซึ่งช่วยรักษาความสามารถในการทำงานสูงสุดต่อวันให้ลูกค้า”
นอกจากนี้ เทคโนโลยีประเภทนี้ยังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ Swisslog อธิบายว่า “ตอนนี้ซัพพลายเชนมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เราจึงออกแบบเทคโนโลยีประเภทต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยปัจจุบัน เราให้บริการรถ AGV ในตลาดหลากหลายประเภทและมีการออกแบบรถยกขนสินค้าเฉพาะสำหรับลูกค้าบางรายที่มีความต้องการเฉพาะ อย่างไรก็ตาม รถ AGV ทุกประเภทมีหน้าที่เหมือนกันคือ การขนย้ายสินค้า การยกขนสินค้าวางซ้อน และบางประเภทก็สามารถจัดเก็บสินค้าได้ด้วย”
“ถึงแม้รถ AGV มีหลากหลายประเภท แต่โดยหลักแล้ว เราสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลักๆ คือ AGV มาตรฐานทั่วไปอย่าง fork AGV และ conveyor AGV ประเภทที่สองคือ รถ AGV แบบเคลื่อนที่ได้ โดยรถ AGV ทั่วไปมีหน้าที่ในการขนส่ง สินค้าและใช้ในการจัดการระบบอินทราโลจิสติกส์ทั่วไป ซึ่งมีให้เลือกตามความต้องการของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน รถที่ขนส่งมีทั้งที่เป็นพาหนะอย่างรถฟอร์คลิฟต์และ conveyor deck และประเภทที่สองคือรถ AGV เคลื่อนที่ได้ ตัวอย่างเช่น ที่ Swisslog เรามีรถ CarryPick ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเคลื่อนที่ได้ ใช้สำหรับจัดเก็บและหยิบสินค้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บสินค้าที่ทันสมัยและมีระบบจัดเก็บสินค้าสำหรับโลจิสติกส์แบบ multi-channel รถยกขนสินค้าเหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Swisslog และ KUKA ซึ่งมีการนำทางโดยใช้ระบบ grid เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ปฏิบัติงานเพื่อยกขนสินค้าและลดระยะการเดินของพนักงาน โดยรถแต่ละคันสามารถเข้ามาทำงานและปฏิบัติหน้าที่แทนกันและกันได้ โดยที่ระบบยังคงสามารถทำงานต่อได้แม้จะมีการลดจำนวนรถลง นอกจากนี้ พนักงานยังสามารถเข้าไปหยิบสินค้าเองได้หากจำเป็น เราออกแบบระบบที่สามารถตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของสินค้าประเภทต่างๆ ได้โดย mobile racks แบบมาตรฐานสามารถปรับขนาดและลักษณะการทำงานได้ตามรูปร่างของสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมแฟชั่นที่ต้องมีการใช้ไม้แขวนเสื้อ ยิ่งกว่านั้น ระบบยังสามารถปรับเปลี่ยนได้หากมีการเปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเราสามารถติดตั้งระบบดังกล่าวในอาคารหรือตึกมีหลังคาต่ำได้ ลูกค้าสามารถเริ่มจากการใช้รถ AGV เพียงไม่กี่คันและเพิ่มจำนวนภายหลังตามความสามารถในการทำงานและปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้น”
Customized Technology
ทั้งนี้ เทคโนโลยีประเภทนี้สามารถปรับใช้งานกับสินค้าหลากหลายประเภทที่นำขึ้นวางบนแพเล็ต ตะกร้า bin หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดย AGV สามารถใช้งานร่วมกับการยกขนสินค้าเกือบทุกประเภท โดยสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ด้วยเทคโนโลยีระบบนำทางที่ทันสมัยและมีความสามารถในการยกขนสินค้าที่ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้ AGV จึงเหมาะกับระบบโลจิสติกส์ที่ทั้งซับซ้อนและระบบการทำงานที่มีความเรียบง่าย
Swisslog กล่าวเสริมว่า “AGV ของเราสามารถทำงานได้อิสระแบบ stand-alone หรือสามารถทำงานร่วมกับระบบ ERP ได้ สถานที่ปฏิบัติงานก็มีความปลอดภัยและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังลดโอกาสในการหยิบสินค้าผิดเนื่องจากมีระบบหยิบสินค้าตามสัญญาณไฟ (pick by light) และระบบ pick pointer โดยผู้ใช้งานสามารถปฏิบัติงานได้สะดวกและราบรื่นมากขึ้น นอกจาก AGV ทั่วไปแล้ว เรายังให้บริการเครื่องมือยกขนสินค้าที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า เรามีตัวเลือกทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย ดังนั้นต้องเริ่มจากการศึกษาตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายก่อน ลูกค้าบางรายอาจไม่จำเป็นต้องปรับแต่งรถก็ได้เพราะสามารถเลือกใช้งานจากประเภทรถต่างๆ ที่เราให้บริการอยู่แล้ว”
“บางกรณี เราก็มีลูกค้าที่ต้องการโซลูชั่นอัตโนมัติเช่นกัน หนึ่งในลูกค้าของเราคือ บริษัท AMAG Automobile ที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยเป็นบริษัทผู้นำเข้ารถประเภทต่างๆ ทั้ง VW, Škoda, Audi, SEAT และรถเพื่อการพาณิชย์ของ VW โดย AMAG Automobile มีการวางแผนเปลี่ยนการขนย้ายสินค้าทั้งหมดให้เป็นระบบอัตโนมัติในโซนและระดับชั้นที่กำหนด ซึ่งจากความต้องการดังกล่าว Swisslog ได้ออกแบบคอนเซปต์การทำงานของ AGV ทั้งหมด 20 คัน รวมทั้งซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงาน ระบบนำทางด้วยเลเซอร์และระบบการสื่อสารผ่าน Wi-Fi ในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้รถสามารถทำงานได้ตามที่วางแผนไว้และปฏิบัติการอย่างปลอดภัย ซึ่งประเมินจากจำนวนของรถยกขนสินค้าถือได้ว่าเป็นโครงการติดตั้งรถ AGV ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์และใหญ่ที่สุดของ Swisslog ในปัจจุบัน และทุกวันนี้ ระบบดังกล่าวก็ยังทำงานได้ตรงตามตารางที่กำหนดและสามารถติดตามสถานะของระบบได้อย่างไร้รอยต่อ ความผิดพลาดและความเสียหายของสินค้าลดลง และระยะทางการขนส่งสินค้าภายในคลังสินค้ายังได้รับการปรับให้เหมาะสมขึ้น เนื่องจาก AGV สามารถลดระยะเวลาในการขนถ่ายสินค้าให้เร็วขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์”
นอกจากการติดตั้งเทคโนโลยีที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องคำนึงถึงอีก Swisslog อธิบายเพิ่มเติมว่า “ลูกค้าควรเข้าใจรูปแบบการทำงานและกิจกรรมภายในอาคาร อาทิ จำนวนกะการทำงาน ความแม่นยำในการทำงาน และพื้นที่ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งลูกค้าควรคำนึงถึงความปลอดภัยอีกด้วย การจะปรับใช้ AGV อาคารดังกล่าวต้องมีพื้นที่แข็งแรงมั่นคง พื้นผิวมีความราบเรียบ และมีอัตราการรับน้ำหนักของพื้นอย่างเหมาะสม ยิ่ง AGV ต้องยกขนสินค้าสูงเท่าไรก็ยิ่งต้องมีการติดตั้งจำนวนตัวเซ็นเซอร์มากขึ้นเท่านั้น เพื่อความแม่นยำในการทำงาน รวมทั้งต้องมีการลดความเร็วลง เพื่อความปลอดภัยในการทำงานอีกด้วย”
The Future of Automation
นอกจากรถ AGV แล้วก็มีเทคโนโลยีอัตโนมัติอื่นๆ ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในแง่การขนส่งสินค้า การจัดเก็บ และการหยิบสินค้า Swisslog กล่าวว่า “หุ่นยนต์จัดการยกขนสินค้า (robot handling) ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ Swisslog มี ซึ่งเราไม่ได้ให้บริการเพียงการนำสินค้ารวบรวมบนแพเล็ตและยกสินค้าออกจากแพเล็ต แต่มีความสามารถมากกว่านั้น เรากำลังออกแบบอนาคตของอินทราโลจิสติกส์ด้วยโซลูชั่นอัตโนมัติผ่านนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เพื่อมอบคุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้า Swisslog ให้การสนับสนุนบริษัทที่มีความคิดก้าวหน้าให้สามารถปฏิบัติงานในคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ระบบอัตโนมัติและซอฟต์แวร์ในการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติและระบบการดึงข้อมูลอย่างเครนซ้อนแพเล็ต เครนยกขนสินค้าน้ำหนักไม่มาก ชั้นจัดเก็บสินค้าสำหรับสินค้าขนาดเล็กและระบบประมวลผลขั้นตอนการดำเนินงาน ระบบสับเปลี่ยน สินค้าขนาดเล็ก และระบบจัดการแพเล็ต นอกจากนี้ Swisslog ยังให้บริการระบบการจัดการคลังสินค้า ซึ่งมีโซลูชั่นครบวงจรให้บริการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ”
ในส่วนของการเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม Swisslog ได้ให้คำแนะนำกับเราว่า “ลูกค้าควรเลือกผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงด้านการให้บริการที่ดี เนื่องจากความสามารถในการบริหารจัดการ การขนถ่าย และการควบคุมแบตเตอรี การให้บริการลูกค้า และการมีอะไหล่ที่ได้มาตรฐาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถและคุณภาพ การทำงานของ AGV ผู้ให้บริการที่ดีที่พร้อมช่วยเหลือและใส่ใจในการซ่อมบำรุงจะทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจ และเมื่อมีข้อติดขัดก็สามารถให้การช่วยเหลือได้ สำหรับ Swisslog เรามีประสบการณ์ด้าน AGV มาเป็นเวลา 45 ปี และจากประสบการณ์ในส่วนนั้น ทำให้เราสามารถออกแบบระบบจากความรู้และประสบการณ์ของเราจนประสบความสำเร็จกับโครงการนับไม่ถ้วน เราได้ผสานความรู้ด้านโครงการ R&D ระหว่าง KUKA และ Swisslog เพื่อผลิตรถ AGV เคลื่อนที่ได้ในระดับ first-class องค์กรของเรามีเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วโลก ทำให้ลูกค้าสามารถวางใจได้ว่า เมื่อต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการสอบถามบริการเพิ่มเติม ทีมงานของเราก็พร้อมให้บริการได้อย่างรวดเร็วและวางใจได้ ทีมปฏิบัติการของเรามีความน่าเชื่อถือและมีความพร้อมตลอดเวลา รวมทั้งสามารถติดตามสถานะของสินค้า นอกจากนี้ยังลดอัตราความเสียหายระหว่างการขนส่งและส่งมอบ โดยไม่ต้องมีพนักงานคอยควบคุม ซึ่งมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่าย”

ทั้งนี้ AGV เป็นหัวข้อที่ได้รับการพูดถึงในอุตสาหกรรมมาเป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็เริ่มเห็นความสามารถและประโยชน์ของเทคโนโลยีในส่วนนี้ และเริ่มมีความคิดเป็นไปในทิศทางบวกเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของเทคโนโลยีนี้ Swisslog กล่าวว่า “ผู้ให้บริการเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยียกขนสินค้าที่มีความยืดหยุ่นและระบบอัตโนมัติอย่าง AGV มากขึ้น ตลาดเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยีประเภทนี้ก็มีส่วนช่วยให้ผู้ปฏิบัติการทำงานได้สำเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้”

เครื่องจักร

เครื่องจักร NC DNC CNC   เครื่องจักร NC DNC CNC เครื่องจักร NC               NC   ย่อมาจาก  Numerical Cont...